เย้ๆ กลับบ้านรอบนี้ตะกั่วป่าคึกครื้นเสียจริงๆครับ จะไปไหนมาไหนก็เห็นผู้คนออกมาทำกิจกรรมกันมากมาย ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่อง “ถนนคนเดิน” ที่ตลาดเก่าตั้งแต่เค้าเริ่มมีกันใหม่ๆ ก็ผลัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดที่ได้กลับไปพบว่ามีการขยายตัวออกไปมากเลยทีเดียวครับ สังเกตได้จากความยาวของพื้นที่จัดงานที่ทอดยาวออกไปไกลกว่าเดิม จากเดิมที่เริ่มจากแยกจับเส-สามแยกร้านชุมสาย แต่เดี๋ยวนี้ร้านค้าทอดยาวไปจนถึงแยกไปวัดหน้าเมืองเลยทีเดียว การแสดงก็เช่นกันครับ เดิมทีจะมีเวทีการแสดงเพียงเวทีเดียวซึ่งตั้งอยู่บริเวณ หน้าบ้านศรีเมืองใต้ ปัจจุบันก็มีเพิ่มขึ้นมาเป็นสองเวทีดูเหมือนจะเป็นเวทีของนักเรียนนักศึกษาที่มาแสดงกันครับ
เย้ๆ กลับบ้านรอบนี้ตะกั่วป่าคึกครื้นเสียจริงๆครับ จะไปไหนมาไหนก็เห็นผู้คนออกมาทำกิจกรรมกันมากมาย ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่อง “ถนนคนเดิน” ที่ตลาดเก่าตั้งแต่เค้าเริ่มมีกันใหม่ๆ ก็ผลัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดที่ได้กลับไปพบว่ามีการขยายตัวออกไปมากเลยทีเดียวครับ สังเกตได้จากความยาวของพื้นที่จัดงานที่ทอดยาวออกไปไกลกว่าเดิม จากเดิมที่เริ่มจากแยกจับเส-สามแยกร้านชุมสาย แต่เดี๋ยวนี้ร้านค้าทอดยาวไปจนถึงแยกไปวัดหน้าเมืองเลยทีเดียว การแสดงก็เช่นกันครับ เดิมทีจะมีเวทีการแสดงเพียงเวทีเดียวซึ่งตั้งอยู่บริเวณ หน้าบ้านศรีเมืองใต้ ปัจจุบันก็มีเพิ่มขึ้นมาเป็นสองเวทีดูเหมือนจะเป็นเวทีของนักเรียนนักศึกษาที่มาแสดงกันครับ
สำหรับผม ถนนคนเดิน สายนี้สร้างความประทับใจมากครับ เนื่องจากมีขนมพื้นเมืองที่บางอย่างหาทานไม่ได้แล้ว มาวางขาย ของฝากเองก็เหมือนกันครับที่ดูเหมือนจะเริ่มมีร้านเข้ามาขายกันหลายเจ้า แต่ละชิ้นแต่ละร้านก็ทำมาได้ สวยงามน่าซื้อกลับไปเป็นของฝากจริงๆครับ
ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่ดูขัดหูขัดตาไปบ้างสำหรับ ถนนคนเดิน นี้ก็คงหนีไม่พ้นร้านขายเสื้อผ้าสมัยใหม่ที่พากันมาวางขาย กันมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ปลายถนน ซึ่งส่วนตัวแล้วผมมองว่า ไม่เข้ากับ ถนนสายวัฒนธรรม นี้เลยครับถ้าจะขายก็น่าจะเป็นเสื้อผ้า ที่เข้ากับ Theme ของงานสักหน่อย ตรงนี้เสี่ยงมากครับ ถ้าไม่มีการควบคุมดูแลให้ดีต่อไปจาก ถนนสายวัฒนธรรม ของตะกั่วป่า บ้านเรา อาจกลายสภาพไปเป็นตลาดนัดวันอาทิตย์ก็เป็ได้ครับ
แต่โดยรวมแล้วถนนสายนี้น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่จะได้มีโอกาสมาจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อของฝาก ลิ้มลองอาหารตะกั่วป่า และชื้นชอบกับตึกราบ้านช่องทรงชิโนโปรตุกิสกัน ซึ่งน่าจะส่งผลให้ตะกั่วป่าบ้านเรา มีเงินหมุนเวียนมากขึ้นครับ
สำหรับใครที่สนใจจะแวะมาเที่ยว ถนนสายวัฒนธรรม ของตะกั่วป่าหรือ ถนนคนเดิน แห่งนี้สามารถแวะมาได้ครับ สำหรับเส้นทางนั้นสามารถไปได้หลายทางครับ โดยขับรถมาจากตามทางหลวงแผ่นดินสายหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ถึงแยกเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ท่านจะเห็นรูปสลักพระนารายณ์ (ดูเหมือนจะเป็นสี่แยกเดียวในช่วงใน อ.ตะกั่วป่า ที่ถนนเพชรเกษม มีไฟสัญญาณไฟจราจรครับ) จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนนบำรุงราษฎร์ ขับไปเรื่อยๆประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะเจอกับสถานีตำรวจภูธรตลาดใหญ่เลี้ยวขวา เจอสัญญาณไฟจราจรแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะถึง ถนนสายวัฒนธรรม ครับ ถนนสายวัฒนธรรม แห่งนี้จะมีทุกวันอาทิตย์ในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูฝนครับเวลา 15.00 น. – 20.00 น. โดยประมาณครับ