หลังวัดปัจจันตคามขุดฐานองค์พระพุทธรูปใหญ่ที่สร้างมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2411แล้วเจอพระเครื่องอายุไม่ต่ำ กว่า 100 ปี จำนวนนับพันองค์ คาดสร้างในสมัยรัตนโกสินตอนต้น…
หลังวัดปัจจันตคามขุดฐานองค์พระพุทธรูปใหญ่ที่สร้างมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2411แล้วเจอพระเครื่องอายุไม่ต่ำ กว่า 100 ปี จำนวนนับพันองค์ คาดสร้างในสมัยรัตนโกสินตอนต้น…
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ได้รับแจ้งจากนายเสริมพงษ์ สฤษ์ดิสุข สมาชิกสภาจังหวัด เขตเมืองพังงา ว่า ที่บริเวณวัดปัจจันตคาม หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา ได้มีการขุดพบพระเครื่องจำนวนมาก จึงรุดไปที่เกิดเหตุ เป็นลานวัดที่เคยมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ พบพระสงฆ์พร้อมด้วยคณะกรรมการวัดปัจจันตคาม หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา กำลังใช้เหล็กสกัดองค์พระสมัยโบราณออกมาจากฐานองค์พระพุทธรูปองค์จากบริเวน ลานวัด ใกล้กันมีรถแบ็คโฮขุดฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่เพื่อจะก่อสร้างอุโบสถ โดยพบพระเครื่องหลากหลายรุ่นและชนิดจำนวนร่วม 1,000 องค์ ที่สามารถสกัดขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว และที่ยังขุดเพิ่มเติมต่อไปอีกรวมจำนวนหลายพันองค์
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การค้นพบดังกล่าวสร้างความตื่นเต้นให้แก่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแห่กันมาดูพระ ในขณะที่ทาง พระสงฆ์และกรรมวัดพยายามแกะสลักเพื่อไม่ให้องค์พระที่มีทั้งเป็นแบบไม้ แบบโลหะ และแบบแก้ว เสียหาย ออกมาให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยเบื้องต้นที่ใต้ฐานที่ขุดพบระบุการก่อสร้างใน พ.ศ.2478 เบื้องต้นชาวบ้านสันนิษฐานว่าพระที่ขุดพบอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ที่ผ่านมา และมีการยืนยันว่าทางกรมศิลปากรดูประวัติการขึ้นทะเบียนของการก่อสร้างองค์พระพุทธรูปดังกล่าวเมื่อปี 2411 และมีการบูรณะในปี 2478 ทำให้เป็นที่สนใจของเซียนพระเป็นจำนวนมาก
นายเสริม การวิจิตร อายุ 65 ปี คณะกรรมการวัดปัจจันตคาม กล่าวว่า ทางวัดที่แนวคิดที่จะก่อสร้างอุโบสถที่องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ บริเวณลานวัดทางคณะกรรมการจึงเห็นร่วมกันว่าต้องเคลื่อนย้ายไว้ประดิษฐานภาย ในโรงธรรมของวัดและต้องทุบฐานที่ประดิษฐานองค์พระเดิม โดยตนสังเกตเห็นว่าปูนซีเมนต์มีองค์พระเครื่องและพระพุทธรูปจำนวนหลายองค์ฝังอยู่ จึงตัดสินใจร่วมกับคณะกรรมการวัด และเจ้าอาวาสวัดปัจจันตคาม ให้นำแบ็คโฮมาขุดขึ้นมาดู พบว่าภายในปูนของฐานมีพระเครื่องและพระพุทธรูป จำนวนหลายองค์จึงช่วยกันแกะสกัด แต่ก็มีเสียหายไปหลายองค์ โดยทางวัดพร้อมที่จะเก็บรักษาในวัดหรืออาจจะใส่รวมกับฐานอุโบสถที่จะก่อสร้างใหม่
ด้าน นางอุทัย พัฒนพิชัย วัฒนธรรมจังหวัดพังงา กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวก็ได้เดินทางไปดูร่วมกับนายปัญญา พูลศิริ นายช่างศิลปากรที่ 15 จังหวัดภูเก็ต จากการวิเคราะห์ในเบื้องต้นพบว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นโดยช่างฝีมือพื้นบ้านในท้องถิ่น โดยสร้างในปี 2478 ในเบื้องต้นให้ทางวัดเก็บรักษาไว้ก่อน และให้หยุดสกัดจากกรุหินปูนเพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์พระได้โดยจะให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานศิลปากรที่ 15 เข้ามาดำเนินการศึกษาและเก็บรวบรวมพระเนื้อไม้หุ้มด้วยสำริดรมควันดำ และมีพระชนิดอื่นๆร่วมอยู่ด้วย.